บทที่ 8 ชายชู้อันดับหนึ่ง (๓) จบตอน

นายกล้าที่ถูกเชิดคางคมขึ้นตาเลื่อนลอยอย่างเพ้อฝัน สัมผัสนุ่มของมือเล็กๆ กลิ่นหอมดอกไม้ที่โชยมาจากร่างกายอ้อนแอ้นอรชรนั่น ช่างน่าหลงใหลเหลือเกิน

“ขอรับ... กระผมจักสืบให้”

“...”

“งั้นที่บ่าวรับใช้ว่ากันว่าคุณผู้หญิงความจำเลือนหาย... ก็คงเป็นความจริงสินะขอรับ”

แม้จะมีดวงตาเคลิบเคลิ้มพร้อมรับคำสั่ง แต่สุนัขตัวนี้ยังอดสงสัยไม่ได้ นายกล้าโพล่งขึ้นมาในขณะที่มองหญิงสาวตาปริบๆ ดวงตาเรียวรีนั้นไม่ได้มีความเคลือบแคลงอะไรมากนัก อย่างไรคนตรงหน้าก็คือคนที่เขาหลงรักสุดดวงใจ

“ฮะๆ คงใช่แหละจ้ะ ก็ฉันฝันร้ายอยู่บ่อยๆ นี่นา แถมก่อนหน้านี้ก็เป็นไข้หนักด้วย” นางสาวบีแสร้งหัวเราะกลบเกลื่อน “อย่างไรเธอจะทำตามที่ฉันสั่งใช่ไหม แล้วชื่ออะไรเหรอ?”

“กระผมชื่อกล้าขอรับ” ชายหนุ่มกำยำผิวคล้ำแดดมีใบหน้าเปื้อนยิ้ม “แต่ท่านมิจำเป็นต้องจำชื่อกระผมก็ได้ขอรับ อย่างไรคุณผู้หญิงบัวงามก็เรียกผมว่าสุนัขอยู่แล้ว”

อ่า...

อีนี่มันโคตรแน่วแน่ในอุดมการณ์จัดๆ

“จ้ะ งั้นก็ไปได้เนอะ ฉันจะอาบน้ำ” นางสาวบีพยักหน้าพลางผละมือเล็กออกจากปลายคางทาสหนุ่ม นายกล้ามีสีหน้าแสนเสียดาย แต่ต่อมาก็ก้มหน้าลงแล้วค่อยๆ รุดออกไปทางหน้าต่างแล้วกระโดดลงไปราวกับเป็นเรื่องปรกติ

ทันทีที่ทาสหนุ่มลับสายตา นางสาวบีถึงกับออกอาการหอบถี่

“โอ้ย เกือบแล้ว” พึมพำกับตัวเองพลางยกมือมาทาบอกอวบ ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นบีบเคล้นหน้าอกของร่างกายที่ตัวเองอยู่อย่างมันส์มือ “พอนมใหญ่อะไรๆ ก็ง่ายแบบนี้นี่เอง”

นี่ถ้าอีหมอผึ้งนั่นไม่ทำเธอขิตนะ อาจออกจากคลีนิคควงผู้ชายเป็นร้อยไปแล้วก็ได้

ว่าพลางก็เดินไปส่องตัวเองหน้าคันฉ่องขนาดเล็กเพื่อสำรวจ ให้พอเห็นทรวดทรงโดยรวม แล้วก็ถึงกับครางฮือฮา

ไม่แปลกที่ผัวจะ (เคย) หลง แถมชู้ยังเยอะ ก็หุ่นสวยสะเด็ด หน้าอกใหญ่ แถมเบ้าหน้าสวยคม คิ้วโก่งดั่งคันศร ผิวพม่านัยน์ตาแขกแบบพิมพ์นิยมสมัยก่อน แถมด้วยไฝเสน่ห์ใต้ตาข้างซ้ายอีกต่างหาก

เรียกได้ว่างามจัดๆ ถ้าไม่ใช้บุญกีที่มีหนักไปหน่อย ก็เทียบชั้นดาราสมัยนี้ได้เลย

คิดในใจพลางหมุนตัวมองตนเองอย่างภาคภูมิใจ ถึงชาติก่อนเธอจะสวยแต่ก็ออกแนวเกาหลีเกาใจเสียมากกว่า อารมณ์น่ารักมองเพลินๆ แต่นางบัวงามนี่คนละแนวเลย สวยคมสไตล์สาวไทยโบราณ แต่ก็ดีไปอีกแบบนะ

คอยดูเถอะไอ้ผีขุนแสนคำ แม่จะใช้ประโยชน์ของความสวยนี่ให้คุ้มเลย

ผ่านไปสักพักใหญ่ หล่อนอาบน้ำชำระร่างกายขัดขี้ไคลเรียบร้อย พร้อมกับนุ่งสไบทรงไทยสีขาวสะอาด เมื่อเดินไปถึงหน้าเรือนใหญ่ ก็พบว่าครอบครัวของนางบัวงามนั่งพูดคุยกันอย่างพร้อมหน้า

จากที่นางสาวบีไปแอบลอบๆ เคียงๆ ถามมา ก็ทราบได้ว่านางบัวงามนั้นเป็นบุตรีของหลวงศรีจันทร์ กับนางจันทร์งาม หล่อนเป็นหน้าเป็นตาให้วงศ์ตระกูลเรื่องความงามและความอ่อนน้อมถ่อมตน ประพฤติตนอย่างกุลสตรี ที่พอได้ยินแบบนั้นถึงกับทำให้นางสาวบีแทบหลุดขำ

อย่างว่า... เป็นลูกสาวคนมีระดับก็ต้องสร้างภาพหน่อย จะให้ชาวบ้านชาวช่องรับรู้ได้ไงว่าลับหลังผู้คนนางลูกหลวงคนนี้นอกใจนอกกายผัวที่ตบแต่งแถมยังเอาของเล่นอย่างทาสชายมาขยี้สวาทกันถึงในเรือน

แต่เรื่องน่าสนใจที่รู้มาอีกอย่างคือหลวงศรีจันทร์มีบุตรชายคนที่สองกับเมียรับใช้ในเรือน จนขึ้นเป็นคุณหญิงคนที่สอง เป็นน้องชายคนละมารดากับหล่อน ชายหนุ่มหน้าตาคมเข้มดุดัน ตัวใหญ่โตจนดูไม่เหมือนน้องที่นั่งวางท่าอยู่ที่ตั่งข้างซ้ายของพ่อนางนั่นน่ะหรือ ที่ชื่อว่า ‘ขุนเสือ’

ดูสายตาที่มองมาที่หญิงสาวนั่นสิ พอเหลียวมาเจอว่านางยืนอยู่ตรงนี้ ก็วาววับราวกับคนเคยอาฆาตกันมาตั้งแต่ชาติปางไหน

บ่าวรับใช้ประจำตัวนางบัวงามกระซิบบอกกับเธอว่าขุนเสือนั้นไม่ชอบพี่สาวตนเองนัก เพราะแย่งความรักมาจากพ่อเนื่องจากเกิดมาจากเมียที่ออกหน้าออกตา ไม่ใช่เขาที่เกิดมาจากบ่าวรับใช้

ก็คงจะจริงดังว่าล่ะนะ

“ตื่นแล้วหรือบัวงาม? อาการไข้ของลูกดีขึ้นแล้วหรือไร” หลวงศรีจันทร์เมื่อเห็นลูกสาวก็โพล่งขึ้นมาอย่างชื่นมื่น ดูออกจะแปลกไปเสียหน่อยกับเหตุการณ์ที่ลูกเขยเพิ่งเสียชีวิตจากสงคราม ทั้งที่ควรจะไว้ทุกข์แท้ๆ กลับทำเหมือนเป็นเรื่องปกติ

ฝ่ายนางจันทร์งามเองก็มองลูกสาวตนเอง แน่นอนว่าได้เล่าให้สามีฟังแล้วว่าทันทีที่ฟื้นจากพิษไข้ ลูกมีท่าทีประหลาดอย่างไรบ้าง

นางสาวบีสัมผัสได้ถึงสายตาของแม่ที่ดูเคลือบแคลง จึงทำทียกมือขึ้นมากุมหน้าผาก ทำทีปวดหัวการละคร

“ฟื้นแล้วเจ้าค่ะคุณพ่อ แต่ลูกอาจเบลอจากพิษไข้เล็กน้อย จนก่อนหน้านี้เผลอแสดงกิริยาไม่งามกับคุณแม่ไป” ว่าพลางเดินมานั่งข้างๆ นางจันทร์งาม ซุกแขนแม่ของตนทำทีออดอ้อนให้เห็นใจ “ลูกต้องขอโทษคุณแม่ด้วยนะคะ”

อย่างไรก็ห้ามให้คนในบ้านรู้เด็ดขาดว่าเธอเป็นคนอื่น ไม่ใช่เจ้าของร่างที่มาสิงอยู่

“ตายจริง ก็นึกว่าเลอะเลือนจนหลงลืมแม่ของเจ้าไปเสียแล้ว” คุณหญิงจันทร์งามมีสีหน้าโล่งอกขึ้น หลังจากกังวลอยู่นานว่าบุตรสาวของตนอาจจะวิปลาสไปเพราะไอ้ลูกเขยตามหลอกหลอน นึกแล้วก็แค้นใจนัก ตายไปดีๆ ไม่ได้หรือไร ทำไมต้องมาตามรังควานลูกนางอีก “ลูกยังฝันร้ายถึงพ่อแสนคำอยู่หรือไม่ มันเฮี้ยนจนลือไปทั่วพระนครเลยเชียว”

นางสาวบีชะงัก พลันนึกถึงคำพูดของผีนายแสนคำที่กำชับหล่อนก่อนที่จะตื่นจากนิมิต

“กลับไปสืบสาวราวเรื่องต่อในตอนตื่นเสีย ค้นหาชู้ทุกคนของเมียกู อย่าให้ใครล่วงรู้ว่าได้เจอกูอีก”

คงจะให้รู้ไม่ได้อีกสินะว่ายังฝันถึงเขาอยู่ แถมยังขยี้สวาทกันกลางป่าช้าอีกต่างหาก

“ไม่ฝันถึงแล้วเจ้าค่ะ พี่แสนคงหมดห่วงลูกแล้ว” ว่าพลางฉีกยิ้มกลบเกลื่อน นางจันทร์งามและหลวงศรีจันทร์ถึงกับหันไปมองหน้ากัน ในขณะที่ขุนเสือที่นั่งอยู่อีกฝั่งของนางจะหลุดหัวเราะออกมาในลำคออย่างพึงใจ

“เห็นทีว่าพี่เขยข้าคงเจอผีสาวที่ดีในภพนั้นแล้วกระมัง” เขาว่าพลางส่งสายตาคมกริบมาที่นางบัวงามที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ราวกับต้องการส่งสัญญาณอะไรบางอย่าง แต่แน่นอนว่าเธอไม่ใช่นางบัวงาม ย่อมไม่เข้าใจ “พี่บัวเอง ก็ควรหาพ่อของลูกในท้องมากลบข่าวลือการตาย แลข่าวหม้ายขันหมากของพี่เสีย”

“เสือ! หุบปากของเจ้าประเดี๋ยวนี้” นางจันทร์งามตวาดใส่ขุนเสือเมื่อได้ยินว่าพูดไม่เข้าท่า ไม่ได้สนใจว่าจะสร้างบาดแผลให้ชายตรงหน้าเนื่องจากไม่ใช่ลูกของตัวเอง เด็กหนุ่มร้ายกาจจึงยอมสงบปากลง “บัวงามตั้งครรภ์กับพ่อแสนคำ ถ้าหาผัวใหม่ คิดบ้างหรือไม่ว่าพี่ของเจ้าจักถูกครหาว่าเช่นไร”

นางสาวบีที่นั่งอยู่ข้างๆ แม่ถึงกับพยักหน้าน้อยๆ อย่างเห็นด้วยเงียบๆ

นั่นดิ ไอ้น้องชายนี่หาเรื่องให้พี่สาวตัวเองซะแล้ว ถ้าให้แต่งใหม่แล้วแผนการณ์ตามหาชู้จะเป็นยังไงเล่าไอ้บ้า หัดคิดบ้าง

“แต่ฉันนึกเห็นด้วยกับเสือ” ทั้งนางจันทร์งามและนางสาวบีในร่างนางบัวงามหันขวับไปทางหลวงศรีจันทร์ที่โพล่งเสริมความคิดของลูกชายคนที่สองออกมาอย่างตกใจ “คนตายก็ส่วนคนตาย แต่บัวงามยังต้องใช้หน้าใช้ตาในการใช้ชีวิตต่อไป แม้นจักหม้ายขันหมาก แต่นางก็ยังงาม แลยังมีชายที่ต้องการครอบครองนางอีกมาก”

“พี่... นี่มิต่างกับเอาลูกไปเร่ขายเลยนะ”

“ก็เจ้าอยากคลอดบุตรสาวที่งดงามจนเลื่องลือออกมาทำไมเล่า” ว่าพลางตบหน้าตักตนเองหัวเราะร่วนราวกับมีแผนการปอกลอกชายคนใหม่ด้วยหน้าตาของบุตรสาว นางสาวบีที่นั่งอยู่โดยไม่สามารถออกความคิดเห็นอะไรได้ ได้แต่คิดในใจว่า

ฉันซวยแล้ว

นอกจากจะเป็นหญิงทรามมากชู้ พ่อยังหน้าเลือดเห็นแก่เงินอีกต่างหากหลังจากจบการประชุมครอบครัวครั้งใหญ่ นางสาวบีเดินตรงมาที่ท่าน้ำหน้าเรือนตน มีสระบัวและปลาหลากสีแหวกว่ายอยู่ในนั้น หล่อนคิดไม่ตก เพราะถ้าโดนจับแต่งงานครั้งที่สอง มีหวังไอ้ผีขุนแสนคำได้เฮี้ยนหนักกว่าเดิมแน่นอน

เผลอๆ อาจเอาเธอตายได้ด้วยซ้ำ ข้อหานอกใจซ้ำนอกใจซ้อน เขายิ่งออกทรงผีบ้าอยู่ด้วย ขนาดกับเธอที่ไม่ใช่เมียใจชั่วของเขาด้วยซ้ำ ยังทำกันได้ลงแบบไม่แคร์ใจ

ทำไงดีวะ ไม่อยากแต่งงานอ่ะ แค่ภารกิจตามหาชู้ทุกคนของนางหญิงที่มาสิงร่างนี่ ก็ยุ่งยากจะตายอยู่แล้วเนี่ย

“บัวงาม”

แต่ทว่า... เสียงทุ้มเข้มดุดันที่ดังขึ้นด้านหลังก็ทำให้นางสาวบีหลุดจากภวังค์ความคิด แล้วเหลียวกลับไปด้านหลัง

เธอเห็นว่าน้องชายของนางบัวงาม... หมายถึงขุนเสือน่ะ กำลังเดินมาทางนี้

แต่ทันทีที่ถึงตัวนาง เขาก็...

“... อื้อ!” รั้งสะโพกผายของพี่สาวต่างแม่ของตนมากดริมฝีปากจูบอย่างหนักแน่น ปลายลิ้นอุ่นร้อนตวัดไปทั่วโพรงปากหวาน ดูดดื่ม เร้าแรง ทั้งสาดซัดความคะนึงโหยหา ก่อนที่ชายหนุ่มจะผละออกมา ทิ้งให้นางสาวบีที่โดนจูบยืนอึ้งตาค้างอยู่ตรงนั้น

“ไปบอกพ่อเสีย ไปบอกว่าลูกในท้องของพี่คือลูกฉัน”

“...”

“ไหนพี่สัญญากับฉันไว้มิใช่หรือ ว่าถ้าไอ้แสนคำมันตาย พี่จักหมั้นหมายกับฉัน!”

ขอสบถอีกทีได้ไหม

เฮ้ย! น้องชายต่างแม่มึงก็เอาเรอะบัวงาม!!

บทก่อนหน้า
บทถัดไป